คำถามที่ว่า “เบาะรถยนต์ เบาะหนัง หรือ เบาะผ้า ดีกว่ากัน ?” เป็นคำถามที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ เพราะทุกวันนี้การจะซื้อรถยนต์มาใช้งานสักคัน ก็จะมีปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากมาย ซึ่งแต่ละคน ก็อาจจะเลือกรถที่ต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์และไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
ผู้ที่ต้องการออกรถใหม่บางท่านอาจเลือกจากยี่ห้อ รูปทรง ความสวยงาม สมรรถนะของเครื่องยนต์ จำนวนที่นั่ง รวมไปถึงราคา เป็นตัวกำหนดว่าจะซื้อรถรุ่นไหนมาใช้งานดี แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนสนใจ และก็ก่อให้เกิดคำถามที่ว่า เบาะหนัง หรือ เบาะผ้า ดีกว่ากัน นั่นก็คือภายในห้องโดยสารนั่นเอง
เบาะรถยนต์มีกี่แบบ?
ในปัจจุบัน รถยนต์มีเบาะที่นั่งให้เลือกอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ เบาะรถยนต์แบบหนังแท้ เบาะรถยนต์แบบหนังเทียม และเบาะรถยนต์แบบผ้า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อนั้น ๆ ว่าจะใช้เบาะแบบใด กับรถรุ่นไหน
1. เบาะรถยนต์หนังแท้
เบาะหนังแท้ คือ เบาะรถยนต์ที่ผลิตจากหนังของสัตว์ เช่น หนังวัว หรือหนังแกะ ซึ่งก่อนจะนำมาทำเป็นเบาะรถยนต์ได้จะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนด้วยกัน เช่น การฟอกสี การกำจัดกลิ่น การทำให้หนังมีความนุ่ม และการตัดเย็บ
เบาะรถยนต์แบบหนังแท้ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของเบาะหนังแท้
- มีความหรูหรา
- เน้นความสวยงาม
- ทำความสะอาดง่าย
- ไม่ดูดซับน้ำและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
ข้อเสียของเบาะหนังแท้
- ต้องดูแลมากกว่าเบาะชนิดอื่น
- ไม่ค่อยทนต่อความร้อนและแสงแดด
- ถ่ายเทความร้อนไม่ดี
- เบาะอาจแตกลายงาได้ หากจอดรถตากแดดเป็นประจำ
- มีราคาค่อนข้างสูง
2. เบาะรถยนต์หนังเทียม
เบาะหนังเทียม คือ เบาะหนังที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนเบาะหนังแท้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
- เบาะหนังเทียมแบบ PVC ผลิตจากเนื้อพลาสติก Polyvinyl Chloride ที่ผ่านกรรมวิธีฟอก ย้อม แล้วนำมาตัดเย็บเข้ากับใยผ้า ทำให้ตัวเบาะจะมีความนุ่มในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่เท่ากับเบาะหนังแท้
- เบาะหนังเทียมแบบ PU เป็นหนังเทียมที่สังเคราะห์ขึ้นจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้โพลีออล กับไดไอโซไซยาเนต เป็นส่วนผสมในการผลิต
เบาะรถยนต์ทั้งสองแบบต่างกันตรงที่ เบาะหนังเทียมแบบ PU จะมีความคล้ายกับเบาะหนังแท้มากกว่าเบาะรถยนต์แบบ PVC และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
เบาะรถยนต์แบบหนังเทียม มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของเบาะรถยนต์แบบหนังเทียม
- มีลูกเล่นในการตัดเย็บ
- มีการดีไซน์ที่ดูสวยงามและทันสมัย
- ทำความสะอาดได้ง่าย
- ไม่ดูดซับน้ำ
- ราคาถูกกว่าเบาะรถยนต์หนังแท้
ข้อเสียของเบาะรถยนต์แบบหนังเทียม
- มีโอกาสแตกลายงาได้ง่ายกว่าเบาะหนังแท้
- ไม่ถ่ายเทความร้อน
- อาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์จากขั้นตอนการผลิตได้
- ต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษ
3. เบาะรถยนต์แบบผ้า
เบาะผ้า คือ เบาะรถยนต์ที่ใช้ผ้ามาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นที่นิยมในรถยนต์หลายรุ่น โดยผ้าที่นำมาทำเบาะรถยนต์นั้นมี 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
- เบาะผ้าสังเคราะห์ คือ เบาะรถยนต์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก ให้ความนุ่ม สบาย สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตัวเบาะสามารถตัดเย็บเพิ่มลูกเล่นหรือลวดลายต่าง ๆ เพื่อความสวยงาม ดูสปอร์ตมากขึ้น
- เบาะผ้ากำมะหยี่ คือ เบาะรถยนต์ที่มีความนุ่ม สบาย เนื้อผ้าดูหรู ทำให้รถดูพรีเมีนมขึ้น นอกจากนี้ เบาะผ้ากำมะหยี่ยังสามารถตัดเย็บเพิ่มลูกเล่นหรือลวดลายต่าง ๆ ได้ และตัวเบาะไม่ลื่นไถลเมื่อขับขี่เข้าทางโค้ง
เบาะรถยนต์แบบหนังผ้า มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของเบาะรถยนต์แบบผ้า
- มีราคาถูก
- มีสีสันที่สวยงาม และลวดลายที่หลากหลาย
- ไม่ดูดซับความร้อน
- ถ่ายเทความร้อนได้ดี
- ตัวเบาะมีความนุ่ม กระชับ
ข้อเสียของเบาะรถยนต์แบบผ้า
- มักจะมีฝุ่นสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงกลิ่นอับชื้น หรือคราบต่าง ๆ
- อมน้ำและความชื้น
- ทำความสะอาดได้ยาก
- หากทำเครื่องดื่ม ของกินหกใส่ วิธีทำความสะอาดจะต้องฟอกเบาะเท่านั้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
เบาะหนัง หรือ เบาะผ้า ดีกว่ากัน เลือกแบบไหนดี?
เพราะวัตถุประสงค์ในการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สุดท้ายแล้วจึงต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นเบาะรถยนต์แบบหนัง หรือเบาะรถยนต์แบบผ้า ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบาย ความหรูหรา และเรื่องอื่น ๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัวของผู้ขับขี่รถยนต์เองแล้วว่าชื่นชอบเบาะแบบไหนมากกว่ากัน ที่สำคัญที่สุด คือให้เลือกเบาะรถยนต์แบบที่เข้ากับความชอบ และไลฟ์สไตล์ของตัวผู้ขับขี่เอง ก็จะทำให้เราได้เบาะรถยนต์ที่ตรงใจเรามากที่สุดครับ
Carpuchino – รถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และการท่องเที่ยว